วันนี้ (8 พ.ค.63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางในการช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำในปัจจุบัน โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่เหลือให้ครบตามมติ ครม. ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานโดย กฟผ. จัดซื้อ CPO จำนวน 200,000 ตัน เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน กฟผ. ได้รับซื้อไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง รวม 162,450 ตัน คงเหลืออีก 37,550 ตัน ทั้งนี้เพื่อเร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือให้ครบ 200,000 ตัน เพื่อเร่งดูดซับระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มอบให้กรมธุรกิจพลังงานไปประเมินเพื่อหากลไกในการดูดซับสต็อกไบโอดีเซล (B100) ล่วงหน้า เพื่อนำไปใช้ในการผลิต B10 ตามนโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของกระทรวงพลังงาน เพราะขณะนี้ยอดการใช้ดีเซลในช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาเริ่มกลับมาอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถได้ข้อสรุปว่าจะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือกับ พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาฯนายกฯ ฝ่ายการเมือง ซึ่งได้ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันในพื้นที่ปฏิบัติจริง โดยได้บูรณาการความร่วมมือในพื้นที่เพื่อพิจารณาถึงสาเหตุว่ามีสิ่งใดเป็นกลไกหลักที่ทำให้ปาล์มน้ำมันราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อจะได้นำมาเป็นแนวทางในการวางมาตรการช่วยแก้ปัญหาได้ในโอกาสต่อไป
“การประชุมวันนี้เป็นการหารือร่วมหลายฝ่ายในการแก้ปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมัน ซึ่งที่ประชุมมีแนวทางหลากหลายในการช่วยแก้ปัญหาผลผลิตราคาปาล์มที่ตกต่ำกว่าปกติ เพราะเนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่มีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมามากในช่วงมีนาคม-เมษายน และประกอบกับการบริโภคพลังงานที่ลดลงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด และก็ได้แนวทางให้กฟผ.เร่งรับซื้อ CPO ที่เหลืออีกราว 37,000 ตัน และให้กรมธุรกิจพลังงานเร่งหามาตรการซื้อ B100 ล่วงหน้าเพื่อดูดซับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในตลาดให้ได้มากที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนปาล์มที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว