banner

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หารือกับ Mr. Daleep Singh ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ได้มีการเข้าพบหารือระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ กับ Mr. Daleep Singh , United States Deputy National Security Advisor for International Economics ซึ่งดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในประเทศไทย

โดย Mr. Daleep Singh ได้หารือนโยบายความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาตามแนวนโยบาย Build Back Better ของสหรัฐฯ เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ได้หารือร่วมกันกับประเทศกลุ่มสมาชิก G7 และมีข้อเสนอร่วมกันว่า กลุ่ม G7 ควรมีการแบ่งปันความช่วยเหลือและทรัพยากรต่างๆ ให้กับประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการเงินและการลงทุนในโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ การพัฒนาทรัพยากรแร่เพื่อการผลิตสินค้าและบริการ การพัฒนาภาคการเกษตรและการรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ซึ่งสหรัฐฯ มีความยินดีที่จะหารือในรายละเอียดร่วมกับฝ่ายไทยเพื่อแสวงหาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิดการพัฒนาตลาดการค้าการลงทุนและการพัฒนาภาคพลังงานเพื่อให้ประเทศไทยสามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด19 ได้อย่างยั่งยืน โดยฝ่ายไทยยินดีที่จะมีความร่วมมือกับนักลงทุนต่างชาติในการพัฒนาในหลายด้าน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐของไทยได้มีการร่วมมือกับนานาประเทศในการพัฒนาโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ เส้นทางขนส่ง รถไฟฟ้า และมีแผนที่จะพัฒนาความเชื่อมโยงเหล่านี้ให้เติบโตขึ้นไปในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี การพัฒนาพลังงานสะอาด การส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจ New S-Curve รวมถึง การให้ความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่า ภาครัฐของทั้งสองประเทศจะเป็นด่านหน้าในการแสวงหาโครงการความร่วมมือร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศเกิดความเชื่อมั่นและสร้างโอกาสในการค้าการลงทุนร่วมกันต่อไปในอนาคต โดยฝ่ายไทยยินดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับฝ่ายสหรัฐฯ และจะมีการหารือในรายละเอียดอย่างใกล้ชิดในโอกาสอันใกล้ต่อไป